วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

Adidas Spring Blade

Adidas Spring Blade
                                    


ทางอาดิดาสตั้งใจพัฒนาและปรับแต่งรองเท้าวิ่งรุ่นนี้เพื่อช่วยดึงศักยภาพในการวิ่งของผู้สวมใส่ออกมาให้มากที่สุด โดยไฮไลท์เด็ดที่ทางอาดิดาสงัดเอามาใช้เพื่อสู้กับรองเท้าจากแบรนด์อื่น ๆ ก็คงเป็นพื้นรองเท้าที่ถูกแบ่งออกเป็น 16 ปุ่มกระจายไปรอบ ๆ ซึ่งได้นำเอาโพลีเมอร์คุณภาพสูง มีความยืดหยุ่นและช่วยในเรื่องของการเคลื่อนไหวเป็นอย่างดีมาใช้ รวมถึงรองรับการกระแทกจากพื้นสนามวิ่งหลาย ๆ รูปแบบอีกด้วย

 รองเท้าวิ่งสปริง เบลด รุ่นนี้เตรียมออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ สนนราคาอยู่ที่ 180 เหรียญสหรัฐ (หรือประมาณ 5,400 บาท) ผ่านทางเว็บไซต์adidas.com และร้านตัวแทนจำหน่ายเกือบทุกสาขาทั่วโลก ส่วนในบ้านเราคงต้องรอลุ้นกันหน่อยว่าจะนำเข้ามาขายเมื่อไหร่

Nike Air Zoom Elite 8

Nike Air Zoom Elite 8


   
สัมผัสแรกก็รู้สึกถึงความเบาเลยครับ มันเบากว่าที่เห็นนะ!!! ตามจริงมันเป็นรุ่นที่เบาที่สุดในตระกูล Zoom Air นี้หล่ะ ออกแบบมาเพื่อให้วิ่งเร็วโดยเฉพาะ ดังนั้นการดูดซับแรงหรือความนุ่มนวลจะน้อยกว่ารุ่นอื่นๆ โดยจะเห็นว่าส่วนของ midsole จะบางกว่าเพื่อนๆใน collection นี้ แต่ก็ยังมี Zoom Air อยู่ใต้ฝ่าเท้าเรานะเพื่อความเด้งดึ้งระยะ heel-toe drop ก็เพียงแค่ 8 mm. เท่านั้น นั่นหมายถึงรองเท้ารุ่นนี้เหมาะกับนักวิ่งที่วิ่งลงกลางเท้า ถึงปลายเท้า (mid-foot striker ถึง fore-foot striker) ส่วนตัวแอดมินเองก็เป็นคนวิ่งลงกลางเท้าอยู่แล้วเลยถูกใจเจ้า Elite 8 นี้เป็นพิเศษ ถ้าวันไหนซ้อมวิ่งแบบที่ต้องใช้ความเร็ว ก็จะคว้าคู่นี้ก่อนเลย 
ในส่วนของ upper ที่ออกแบบมาให้มีชิ้นส่วนน้อยชิ้น แต่ก็ยังสามารถโอบรัดกระชับเท้าได้ดีมากแม้ขณะวิ่งทำความเร็ว เข้าโค้งหรือเปลี่ยนทิศทางกระทันหันก็ยังกระชับไม่มีการลื่นไถลภายในรองเท้า ตะเข็บรอยต่อน้อยเพื่อลดการเสียดสีระคายเคืองเท้า และ outsole (พื้นรองเท้า) ก็ทำได้หนึบดีมากเวลาเร่งฝีเท้า 


adidas Pure Boost ZG Prime

                                                         adidas Pure Boost ZG Prime 

   

adidas Pure Boost ZG ออกแบบมาสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ จุดขายของรองเท้านี้อยู่ในชื่อ ZG ที่ย่อมาจากคำว่า Zero Gravity นั่นคือทาง adidas ออกแบบมาให้เบา หนึ่งข้าง หนัก 246 g สำหรับขนาด UK 8.5 และ adidas ได้เคลมไว้ว่า ด้วยเทคโนโลยีลิขสิทธิ์ ทั้ง Primeknit และ Boost จะช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนกับกำลังลอยอยู่!
ส่วน Upper ของรองเท้าใช้เทคโนโลยี Primeknit ที่ช่วยทำให้เท้าพอดีกับรองเท้ามากขึ้น ส่วนนี้จะทำให้รองเท้าสามารถที่จะขยายและยืดหยุ่นตามลักษณะของเท้าขณะเราวิ่ง ช่วยไม่ให้เกิดแผลจากการเสียดสี และระบายอากาศ คล้ายๆว่ามันฟิตเหมือนใส่ถุงเท้าวิ่งอย่างไงอย่างนั้น เท่าที่ลองใส่ แอดก็เห็นด้วยเหมือนกันนะ พอใส่แล้วมันรู้สึกว่ามันพอดีกับเท้าเราเลยทีเดียว ด้านบนมันจะลักษณะ คล้ายๆผ้าทอ มันเลยยืดได้นิดหน่อย และไม่กันน้ำนะ



Puma Faas 500 v4

Puma Faas 500 v4

รองเท้ารุ่นใหม่เป็นรุ่นที่ 4 ในตระกูล Faas 500 ของ Puma ที่ถูกพัฒนาให้มีความยืดหยุ่นมากขึ้น แต่มีน้ำหนักเบาเพียง 250 กรัม ทำให้ผู้ใส่วิ่งได้เร็วกว่าเดิม มีพื้นรองเท้าทำจากโฟมอย่างดี พร้อมกับเทคโนโลยี Everfit 2.0 ที่ช่วยปรับรองเท้าให้กระชับกับเท้าของผู้ใส่ ผลิตออกมาด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีขาว สีดำ และสีแดง โดยมีราคาขายอยู่ที่คู่ละ 75 ปอนด์ (ประมาณ 3,600 บาท)

New Balance 1080 v4

รองเท้าวิ่ง                                                     New Balance 1080 v4



 รองเท้าวิ่งรุ่นนี้จาก New Balance ได้รับการออกแบบมาให้สวมใส่ง่ายและสบายเท้าขณะวิ่ง ผลิตด้วยใยสังเคราะห์ชนิดพิเศษที่ให้ความยืดหยุ่นสูง มีตาข่ายระบายอากาศช่วยให้รองเท้าไม่อับชื้น มีเทคโนโลยี N2 ที่สามารถรองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี โดยมีน้ำหนักเพียง 292 กรัม ผลิตออกมา 4 สีด้วยกัน ได้แก่ สีส้ม สีน้ำเงิน สีเทา และสีขาว สนนราคาขายคู่ละ 105 ปอนด์ (ประมาณ 5,100 บาท)

Adidas Energy Boost 2.0

รองเท้าวิ่ง                                                     Adidas Energy Boost 2.0
                                                    


 รองเท้าวิ่งจากแบรนด์ดัง Adidas รุ่นนี้ เป็นรองเท้าวิ่งที่มีความยืดหยุ่นสูง พื้นรองเท้าทำจากโฟมชนิดพิเศษ มีน้ำหนักที่ 275 กรัม ซึ่งช่วยให้การวิ่งแต่ละก้าวนุ่มนวลยิ่งขึ้น และถูกออกแบบให้ใส่กับเท้าเปล่าโดยไม่ต้องสวมถุงเท้าก็ได้ ไม่เพียงเท่านี้ ยังสามารถใช้กับสมาร์ทโฟนด้วยแอพพลิเคชั่น miCoach ที่รองรับทั้งระบบ Android และ iOS เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลการวิ่ง มีทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีแดง สีดำ สีฟ้า สีเขียวเข้ม และสีน้ำเงิน ซึ่งวางจำหน่ายในราคาคู่ละ 120 ปอนด์ (ประมาณ 5,800 บาท)